ตลาดหุ้นลอนดอนปิดปรับตัวลงในวันศุกร์ (21 มี.ค.) ท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับผลกระทบทางเศรษฐกิจจากนโยบายภาษีของสหรัฐฯ ขณะเดียวกัน การปิดสนามบินฮีทโธรว์ชั่วคราวยังสร้างแรงกดดันต่อหุ้นในกลุ่มเดินทางและท่องเที่ยว

ดัชนี FTSE 100 ปิดที่ 8,646.79 จุด ลดลง 55.20 จุด หรือ -0.63% อย่างไรก็ตาม ดัชนียังปรับตัวขึ้น 0.3% ในรอบสัปดาห์นี้ ท่ามกลางความผันผวนของตลาด

ผลกระทบจากการปิดสนามบินฮีทโธรว์ สนามบินฮีทโธรว์ของอังกฤษระบุว่า ได้เริ่มกระบวนการเปิดให้บริการอีกครั้งหลังจากเกิดเหตุไฟไหม้ ซึ่งส่งผลกระทบต่อระบบไฟฟ้าและทำให้สนามบินต้องปิดให้บริการทั้งวัน เหตุการณ์นี้ส่งผลกระทบต่อหุ้นกลุ่มสายการบินและท่องเที่ยว โดยหุ้นไอเอจี (IAG) บริษัทแม่ของบริติชแอร์เวย์ ร่วงลงถึง 4.2% ก่อนที่จะฟื้นตัวและปิดตลาดลดลง 1.9% ขณะที่ดัชนีหุ้นกลุ่มท่องเที่ยวและนันทนาการปรับตัวลดลงเกือบ 2%

แรงกดดันจากนโยบายภาษีสหรัฐฯ และท่าทีของธนาคารกลาง บรรยากาศการลงทุนได้รับผลกระทบจากนโยบายภาษีของสหรัฐฯ ซึ่งอาจสร้างความไม่แน่นอนต่อเศรษฐกิจโลก แม้ธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) คาดการณ์ว่า จะมีการปรับลดอัตราดอกเบี้ยหลายครั้งในปีนี้ แต่ เจอโรม พาวเวล ประธานเฟดเตือนว่า นโยบายของอดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ อาจทำให้เศรษฐกิจสหรัฐฯ เติบโตช้าลง และมีความเสี่ยงต่อภาวะเงินเฟ้อที่สูงขึ้นในระยะสั้น

ด้านธนาคารกลางอังกฤษ (BoE) มีมติคงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ 4.5% พร้อมส่งสัญญาณว่ายังไม่ควรคาดหวังถึงการปรับลดอัตราดอกเบี้ยในอนาคต เนื่องจากภาวะเศรษฐกิจยังคงเผชิญกับความไม่แน่นอน

แนวโน้มตลาดในสัปดาห์หน้า นักลงทุนเตรียมจับตาการเปิดเผยตัวเลขคาดการณ์เงินเฟ้อของสหราชอาณาจักร รวมถึงการอัปเดตงบประมาณกลางปีของรัฐบาล ซึ่งอาจเป็นปัจจัยสำคัญที่กำหนดทิศทางของตลาดในระยะต่อไป