การปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำเป็น 400 บาท มีผลกระทบสองด้านที่ชัดเจนต่อกลุ่มธุรกิจค้าปลีกและพาณิชย์ในประเทศไทย โดยจะส่งผลกระทบทางบวกต่อกำลังซื้อของผู้บริโภค แต่อาจทำให้ต้นทุนของผู้ประกอบการสูงขึ้นในระยะยาว
สำหรับผู้ใช้แรงงาน หากนโยบายการขึ้นค่าแรงเกิดขึ้นจริง พวกเขาจะมีกำลังซื้อเพิ่มขึ้น ส่งผลให้ยอดขายสินค้าจากผู้ประกอบการในกลุ่มพาณิชย์เติบโต อย่างไรก็ตาม การที่รัฐบาลไม่สามารถดำเนินการขึ้นค่าแรงได้ทันในวันที่ 1 ต.ค. 2567 อาจช่วยลดแรงกดดันต่อผู้ประกอบการในช่วงเวลานี้ เนื่องจากยังสามารถคงต้นทุนแรงงานในระดับเดิมได้อยู่
จากการวิเคราะห์ของ บล. เอเซีย พลัส การขึ้นค่าแรงขั้นต่ำเป็น 400 บาทจะส่งผลกระทบต่อกำไรของหุ้นกลุ่มพาณิชย์ในปี 2568 ระหว่าง 1.7% – 11.5% โดย CPALL จะได้รับผลกระทบมากที่สุดประมาณ 11.5% เนื่องจากมีพนักงานกระจายอยู่ทั่วประเทศจำนวนมาก ทั้งในส่วนของธุรกิจค้าปลีก (7-Eleven) และค้าส่ง (Makro และ Lotus’s)
อย่างไรก็ตาม ผลกระทบจากการขึ้นค่าแรงอาจถูกลดทอนจาก 2 ปัจจัยสำคัญคือ
- มาตรการจากรัฐบาลที่จะเข้ามาช่วยบรรเทาผลกระทบของผู้ประกอบการ
- การเพิ่มขึ้นของกำลังซื้อที่จะช่วยดันยอดขายให้สูงขึ้น ซึ่งอาจช่วยลดแรงกดดันจากต้นทุนค่าแรงที่เพิ่มขึ้นได้บางส่วน
การคงน้ำหนักลงทุนในกลุ่มพาณิชย์ “มากกว่าตลาด” ยังถือเป็นกลยุทธ์ที่แนะนำ เนื่องจากแม้ผลกำไรในไตรมาส 3/2567 อาจชะลอตัว แต่มีแนวโน้มกลับมาเติบโตในไตรมาส 4/2567 จากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ เช่น “กระเป๋าเงินดิจิทัล” ที่จะช่วยเพิ่มยอดขายในช่วงปลายปี
หุ้นที่ควรโฟกัสได้แก่ CPALL และ BJC ซึ่งเป็น Top picks ในกลุ่มนี้ โดยคาดว่า CPALL จะมีกำไรเติบโต 29% ในปี 2567 และ BJC จะมีกำไรเติบโต 26% ในปี 2568
Cr.กรุงเทพธุรกิจ
———————————————————-
เพิ่มเพื่อนรับข่าวสารตลาดหุ้น Forex และบทความดีๆ ด้านการเงิน การลงทุน ฟรี !!
http://line.me/ti/p/%40zhq5011b
Line ID:@fxhanuman
Web : https://www.fxhanuman.com
Web : https://www.eluforex.com/
FB:https://www.facebook.com/review.forex.broker/
เยี่ยมชม partner ของเราที่ Eluforex รีวิวโบรกเกอร์ Forex
#forex #ลงทุน #peppers #xm #fbs #exness #icmarkets #avatrade #fxtm #tickmill #fxpro #fxopen #fxcl #forex4yo