นักวิเคราะห์ฯ คาดตลาดหุ้นไทยวันนี้ได้รับแรงกดดันจากสถานการณ์ความตึงเครียดในตะวันออกกลาง ส่งผลตลาดหุ้นเอเชียเช้านี้ปรับตัวลงตามตลาดหุ้รสหรัฐเมื่อคืนนี้ แต่ยังมีแรงหนุนจากราคาน้ำมันที่ปรับขึ้น หนุนหุ้นพลังงานช่วยพยุงดัชนี และเม็ดเงินของกองทุนวายุภักษ์ที่ทยอยเข้ามา พร้อมให้แนวต้าน 1,470-1,475 จุด แนวรับ 1,450-1,455 จุด
นายเทิดศักดิ์ ทวีธีระธรรม รองกรรมการผู้อำนวยการ สายงานวิจัย บล.เอเซีย พลัส กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้คาดว่า ดัชนีจะได้รับแรงกดดันจากสถานการณ์ความตึงเครียดในตะวันออกกลาง หลังจากที่อิหร่านเปิดฉากยิงขีปนาวุธถล่มอิสราเอล ทำให้ตลาดหุ้นเอเชียที่เปิดมาในเช้าวันนี้ส่วนใหญ่ปรับตัวลดลง ตามตลาดหุ้นสหรัฐเมื่อคืนนี้
อย่างไรก็ตามยังมองว่าตลาดหุ้นไทยยังมีปัจจัยหนุนช่วยพยุงดัชนีอยู่บ้าง จากราคาน้ำมันที่ปรับตัวขึ้น ช่วยหนุนต่อหุ้นกลุ่มพลังงานที่ช่รยพยุงดัชนีได้ ประกอบกับเม็ดเงินของกองทุนวายุภักษ์ที่ยังมีการทยอยเข้ามาช่วยหนุน
โดยให้แนวต้าน 1,470-1,475 จุด แนวรับ 1,450-1,455 จุด
ประเด็นพิจารณาการลงทุนในวันนี้มีหลายประเด็นที่น่าสนใจ ทั้งจากสถานการณ์ตลาดหุ้นสหรัฐ ตลาดหุ้นเอเชีย และปัจจัยทางเศรษฐกิจในไทย:
- ตลาดหุ้นสหรัฐ:
- ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ลดลง 173.18 จุด (-0.41%) ขณะที่ S&P 500 และ Nasdaq ก็ปรับตัวลงอย่างมีนัยสำคัญ ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชีย
- ตลาดหุ้นเอเชีย:
- ดัชนีนิกเกอิตลาดหุ้นโตเกียวเปิดตลาดที่ระดับต่ำกว่าก่อนหน้านี้ ขณะที่ดัชนีฮั่งเส็งตลาดหุ้นฮ่องกงมีการเพิ่มขึ้นเล็กน้อย แสดงถึงความผันผวนในตลาดเอเชีย
- ตลาดหุ้นไทย:
- ตลาดหุ้นไทยปิดที่ 1,464.66 จุด เพิ่มขึ้น 15.83 จุด (+1.09%) แต่นักลงทุนต่างชาติยังคงขายสุทธิ 1,694.53 ล้านบาท ซึ่งอาจสะท้อนถึงความกังวลเกี่ยวกับเศรษฐกิจไทยและสภาวะการลงทุนโดยรวม
- ราคาน้ำมัน:
- ราคาน้ำมันดิบ WTI ปรับตัวเพิ่มขึ้น 2.44% เป็น 69.83 ดอลลาร์/บาร์เรล ซึ่งสามารถส่งผลดีต่อหุ้นกลุ่มพลังงานในตลาดหุ้นไทย และยังช่วยพยุงดัชนีได้ในระดับหนึ่ง
- ค่าเงินบาท:
- ค่าเงินบาทเปิดที่ 32.55/60 บาท/ดอลลาร์ และมีการคาดการณ์ว่าจะอยู่ในกรอบ 32.40-32.70 บาท ซึ่งส่งผลกระทบต่อการส่งออกและความสามารถในการแข่งขันของธุรกิจไทยในตลาดต่างประเทศ
- ปัญหาภาคเอกชน:
- ภาคเอกชนแสดงความกังวลเกี่ยวกับค่าเงินบาทที่แข็งค่าขึ้น 12% ในช่วง 3 เดือนที่ผ่านมา ซึ่งส่งผลกระทบต่อการส่งออก โดยเฉพาะกลุ่มเกษตรกรรมและสินค้าเกษตรอุตสาหกรรม
- นโยบายของรัฐบาล:
- การจ่ายหนี้ของ BTS โดยผู้ว่าฯ กทม. และความพยายามในการกระตุ้นเศรษฐกิจ เช่น การเพิ่มค่าแรงและการส่งเสริมการลงทุนในดาต้าเซ็นเตอร์จาก BOI
หุ้นเด่นวันนี้
- BCH (ลิเบอเรเตอร์)
- คำแนะนำ: ซื้อ
- ราคาเป้าหมาย: 23.90 บาท
- สรุป: ราคาหุ้น BCH ในช่วงที่ผ่านมามีการตอบรับความกังวลเกี่ยวกับการลดจำนวนผู้ป่วยจากคูเวตและการปรับลดค่าบริการทางการแพทย์จากสำนักงานประกันสังคม แต่คาดว่าในระยะสั้นจะมีความชัดเจนมากขึ้น และ BCH อาจได้รับข่าวเชิงบวก ขณะเดียวกัน คาดว่ารายได้ในระยะยาวจะยังคงเติบโตได้ดี พร้อม Valuation ที่น่าสนใจ
- PTTEP (คิงส์ฟอร์ด)
- คำแนะนำ: เก็งกำไร
- ราคาเป้าหมาย: 175.00 บาท
- สรุป: ได้รับ sentiment บวกจากราคาน้ำมันที่ปรับตัวขึ้นเนื่องจากสถานการณ์ความตึงเครียดในตะวันออกกลาง ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อห่วงโซ่อุปทาน สำหรับแนวโน้มผลประกอบการในช่วงครึ่งปีหลัง 67 คาดว่าจะสามารถประคองตัวได้แม้ว่าราคาน้ำมันจะมีความผันผวน ขณะเดียวกันในไตรมาส 3 ปี 67 อาจมีการลดปริมาณขายลงจากการปิดซ่อมบำรุงตามแผน
- GPSC (ไอร่า)
- คำแนะนำ: ซื้อเล่นสั้น
- แนวรับ: 49.00 / 48.00 บาท
- ราคาเป้าหมาย: 55.00 บาท
- Stop Loss: <47.00 บาท
- สรุป: คาดว่า GPSC จะได้รับแรงหนุนจากการคาดการณ์ผลประกอบการในไตรมาส 3 ปี 67 ที่เติบโตจากราคาก๊าซธรรมชาติที่ลดลงในช่วงที่ผ่านมา นอกจากนี้ คาดว่าจะได้รับส่วนแบ่งจากโครงการ CFXD (โรงไฟฟ้าพลังงานที่ไต้หวัน) และเศรษฐกิจไทยที่มีแนวโน้มขยายตัวจะช่วยสนับสนุนธุรกิจโรงไฟฟ้า SPP ของ GPSC ที่ชะลอตัวลงในช่วงที่ผ่านมา
Cr.สำนักข่าวอินโฟเควสท์
———————————————————-
เพิ่มเพื่อนรับข่าวสารตลาดหุ้น Forex และบทความดีๆ ด้านการเงิน การลงทุน ฟรี !!
http://line.me/ti/p/%40zhq5011b
Line ID:@fxhanuman
Web : https://www.fxhanuman.com
Web : https://www.eluforex.com/
FB:https://www.facebook.com/review.forex.broker/
เยี่ยมชม partner ของเราที่ Eluforex รีวิวโบรกเกอร์ Forex
#forex #ลงทุน #peppers #xm #fbs #exness #icmarkets #avatrade #fxtm #tickmill #fxpro #fxopen #fxcl #forex4yo