จากงานวิจัยที่ใช้ข้อมูลจาก National Survey of Family Income and Expenditures ซึ่งมีข้อมูลการใช้จ่ายของครัวเรือนผ่านช่องทางออนไลน์ตั้งแต่ปี 2004 และใช้ข้อมูลราคาสินค้าช่วงปี 1991-2016 จาก Japan Statistical Bureau ซึ่งประกอบด้วยราคาสินค้านับร้อยรายการใน 168 จังหวัดทั่วญี่ปุ่น พบว่า
1. E-commerce มีส่วนทำให้ราคาสินค้าที่มี market shares สูงในการซื้อขายผ่านช่องทาง online (เช่น อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ หนังสือ เสื้อผ้า เฟอร์นิเจอร์) ยิ่งถูกลงเมื่อเทียบกับสินค้าอื่น
2. E-commerce ทำให้ความแตกต่างของราคาสินค้าชนิดเดียวกันที่ขายอยู่คนละจังหวัด ปรับลดลงเร็วขึ้น สำหรับสินค้าที่ซื้อขายผ่าน online มาก ซึ่งคาดว่าเป็นผลจาก price arbitrage เนื่องจากผู้บริโภคสามารถใช้ช่องทางออนไลน์ เพื่อซื้อสินค้าในแหล่งที่ขายถูกกว่าได้
3. การที่ช่องว่างระหว่างราคาของสินค้าในแต่ละพื้นที่ลดลงนั้น ส่งผลให้ welfare ของผู้บริโภค เพิ่มขึ้น 0.3%
4. ประโยชน์ของ e-commerce เกิดจากการที่ผู้บริโภคสามารถเข้าถึงสินค้าใหม่ ๆ ได้สะดวกยิ่งขึ้น อย่างไรก็ดี ผลประโยชน์ดังกล่าวค่อนข้างกระจุกอยู่ในเมืองที่ประชากรมีการศึกษาสูง (เช่น โตเกียว โยโกฮามา)
“E-commerce ส่งผลต่อพฤติกรรมการตั้งราคาของผู้ประกอบการหรือไม่ และผู้บริโภคได้ประโยชน์อย่างไรบ้าง?”
REVIEW OVERVIEW
[td_block_1 custom_title="Review Brokers" limit="4" f_header_font_transform="uppercase" ajax_pagination="next_prev" m4_el="10" category_id="101" sort="oldest_posts"][td_block_1 custom_title="Last Post" limit="4" f_header_font_transform="uppercase" ajax_pagination="next_prev" m4_el="10"]