หลังจากที่ผ่านมา ธนาคารแห่งประเทศไทย หรือ ธปท. ได้ประกาศปรับลดการชำระอัตราดอกเบี้ยขั้นต่ำของบัตรเครดิต ไปเมื่อช่วงโควิด-19 ที่ผ่านมา โดยปรับลดอัตราชำระขั้นต่ำที่ 5% จากเดิม 10% ซึ่งมาตรการนี้จะสิ้นสุดในปี 2566 จากนั้นจะทยอยปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยขั้นต่ำที่ 8% ในปี 2567 และ 10% ในปี 2568
ซึ่งจากประกาศดังกล่าวก็พบว่าธนาคารแต่ละแห่งได้มีการแจ้งต่อบรรดาลูกค้าผู้ถือบัตรเครดิต ว่าจะมีการปรับอัตราผ่อนชำระขั้นต่ำของบัตรเครดิต (minimum payment) ที่จากเดิม 5% เป็น 8% ตั้งแต่รอบบัญชี ม.ค. 67 เพื่อให้เป็นไปตามประกาศของ ธปท. กันแล้ว
ไม่ว่าจะเป็น ธนาคารออมสิน ได้มีการแจ้งลูกค้าผู้ถือบัตรเครดิตออมสิน เพื่อให้เป็นไปตามประกาศธนาคารแห่งประเทศไทย ธนาคารจะดำเนินการปรับเพิ่มอัตราการผ่อนชำระขั้นต่ำสำหรับบัตรเครดิต (Minimum Payment) ตามใบแจ้งยอดค่าใช้จ่าย จากเดิม 5% เป็น 8% (ยอดค่าใช้จ่ายไม่ต่ำกว่า 500 บาท) ตั้งแต่รอบบัญชี เดือนมกราคม-ธันวาคม 2567
ทั้งนี้ การปรับอัตราการผ่อนชำระขั้นต่ำ ลูกค้าผู้ถือบัตรเครดิตออมสินทุกท่านไม่ต้องแจ้งความประสงค์มาที่ธนาคารแต่อย่างใด การปรับอัตราการผ่อนชำระดังกล่าว มีผลตั้งแต่ 1 มกราคม 2567-31 ธันวาคม 2567
ขณะที่ทางด้าน กรุงศรี คอนซูมเมอร์ ได้ประกาศผ่านแอปพลิเคชัน UCHOOSE ว่า เพื่อให้สอดคล้องกับธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ตั้งแต่รอบบัญชีเดือน มกราคม 2567 เป็นต้นไป สำหรับบัตรเครดิต อัตราผ่อนชำระขั้นต่ำจากเดิม 5% จะเปลี่ยนเป็น 8% ของยอดเงินตามใบแจ้งยอดบัญชี แต่ไม่ต่ำกว่า 300 บาท (ไม่รวมรายการผ่อนชำระรายเดือน) สำหรับสินเชื่อส่วนบุคคลแบบชำระขั้นต่ำ ยังคงอัตราผ่อนชำระขั้นต่ำอยู่ที่ 3% (ไม่รวมรายการผ่อนชำระรายเดือน)
ขณะที่ ธนาคารกสิกรไทย ก็ได้มีการแจ้งปรับอัตราผ่อนชำระขั้นต่ำบัตรเครดิตกสิกรไทยตั้งแต่เดือน ส.ค.ที่ผ่านมา โดยระบุว่า ตั้งแต่รอบบัญชีเดือนมกราคม 2567 ธนาคารจะปรับอัตราผ่อนชำระขั้นต่ำสำหรับบัตรเครดิตกสิกรไทยจากเดิมอัตราขั้นต่ำ 5% เป็น 8% ของยอดเงินตามใบแจ้งยอดบัญชีฯ เพื่อให้เป็นไปตามประกาศธนาคารแห่งประเทศไทย
และล่าสุด ธนาคารกรุงเทพ(BBL) ก็ได้มีการประกาศว่า เพื่อให้เป็นไปตามประกาศของธนาคารแห่งประเทศไทย ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) ขอแจ้งประกาศปรับอัตราการชำระคืนขั้นต่ำรายการใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิตจาก 5% เป็นอัตรา 8% ของยอดเงินตามใบแจ้งรายการในแต่ละเดือน โดยมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2567 – 31 ธันวาคม 2567
ส่วนทางด้าน บัตรเครดิต KTC ทางทีมข่าวได้มีการสอบถามไปยังเพจ Ktc Real Privileges พบว่าจะมีการปรับขึ้นเช่นกันโดยจะเป็นการปรับอัตราชำระขั้นต่ำของบัตรเครดิตเป็น 8% ซึ่งมีผลตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2567 เป็นต้นไป
และด้วยเหตุนี้เองจากประกาศของบรรดาธนาคารก็มีประชาชนมาแสดงความคิดเห็นกันเป็นจำนวนมากทั้ง ทุกอย่างขึ้นหมดยกเว้นรายได้ที่ต้องจ่าย, ขึ้นแบบนี้หนี้เสียถึงเยอะ, ดีนะปิดบัตรไปแล้วสภาพ!, ดอกโหดดี
ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่า การปรับเพิ่มจ่ายขั้นต่ำบัตรเครดิต ฝั่ง “ลูกหนี้” ผู้ถือบัตรจะต้องผ่อนชำระค่างวดมากขึ้น แต่ก็สามารถนำค่างวดไปตัดชำระเงินต้นได้มากขึ้นเช่นกัน ทำให้สามารถปิดจบหนี้ได้เร็ว ซึ่งทาง ธปท. มองว่า การปรับเพิ่มจ่ายขั้นต่ำบัตรเครดิตจาก 5% เป็น 8% ในปี 2567 จะส่งผลดีต่อลูกหนี้ เพราะการจ่ายขั้นต่ำไปเรื่อยๆ จะมีดอกเบี้ยเพิ่มขึ้น และใช้เวลาปิดหนี้ช้าลงนั่นเอง เบื้องต้นประเมินว่ามีลูกหนี้จ่ายขั้นต่ำบัตรเครดิตเกิน 10% มีจำนวนไม่ต่ำกว่า 70-80% และมีส่วนน้อยจ่ายขั้นต่ำไม่เกิน 5%
ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่า การปรับเพิ่มจ่ายขั้นต่ำบัตรเครดิต ฝั่ง “ลูกหนี้” ผู้ถือบัตรจะต้องผ่อนชำระค่างวดมากขึ้น แต่ก็สามารถนำค่างวดไปตัดชำระเงินต้นได้มากขึ้นเช่นกัน ทำให้สามารถปิดจบหนี้ได้เร็ว ซึ่งทาง ธปท. มองว่า การปรับเพิ่มจ่ายขั้นต่ำบัตรเครดิตจาก 5% เป็น 8% ในปี 2567 จะส่งผลดีต่อลูกหนี้ เพราะการจ่ายขั้นต่ำไปเรื่อยๆ จะมีดอกเบี้ยเพิ่มขึ้น และใช้เวลาปิดหนี้ช้าลงนั่นเอง เบื้องต้นประเมินว่ามีลูกหนี้จ่ายขั้นต่ำบัตรเครดิตเกิน 10% มีจำนวนไม่ต่ำกว่า 70-80% และมีส่วนน้อยจ่ายขั้นต่ำไม่เกิน 5%
ทั้งหมดนี้อาจจะทำให้หลายคนเข้าใจว่า “บัตรเครดิต” เป็นต้นตอของปัญหาหนี้สิน แต่แท้จริงแล้ว สาเหตุมาจาก “เจ้าของบัตร” ใช้จ่ายเกินตัว และไม่มีการวางแผนการใช้จ่ายเสียมากกว่า ดังนั้นหนทางที่จะทำให้เกิดการใช้บัตรเครดิตอย่างถูกวิธี และไร้หนี้เพิ่ม นั่นคือใช้บัตรอย่างมีสติ จ่ายตรงเวลา เต็มจำนวน ก็จะไม่ก่อให้เกิดปัญหาตามมานั่นเอง
กองบรรณาธิการ
Source: ไทยรัฐออนไลน์