ล่าสุดมีรายงานว่าแบงก์ใหญ่ในประเทศไทยกำลังเข้มงวดในการทบทวนด้านธรรมาภิบาล หลังจากพบว่าบริษัทจดทะเบียนมีความเสี่ยงเพิ่มขึ้น โดยธนาคารกสิกรไทย, ธนาคารไทยพาณิชย์ และเอชเอสบีซี ได้เน้นย้ำถึงหลักเกณฑ์การปล่อยสินเชื่อที่ให้ความสำคัญกับธรรมาภิบาลเป็นหัวใจหลัก ธนาคารเหล่านี้กำลังเร่งทบทวนและติดตามพอร์ตสินเชื่อของลูกค้าเก่าอย่างต่อเนื่อง เพื่อป้องกันความเสี่ยงที่จะเกิดขึ้นในอนาคต
การทบทวนดังกล่าวมุ่งเน้นที่การตรวจสอบมาตรฐานธรรมาภิบาลของบริษัทที่ได้รับสินเชื่อ เพื่อให้แน่ใจว่ามีการดำเนินงานอย่างโปร่งใสและมีการบริหารจัดการที่ดี ซึ่งจะช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดปัญหาทางการเงินและเพิ่มความมั่นคงให้กับระบบการเงินโดยรวม
ปัญหาด้านธรรมาภิบาลในบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ได้รับความสนใจเพิ่มขึ้น เนื่องจากมีกรณีการขาดธรรมาภิบาล เช่น การทุจริตภายในองค์กร หรือการตกแต่งบัญชีเพื่อให้ได้ประโยชน์สูงสุด ซึ่งส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นของนักลงทุนและอาจทำให้ตลาดหุ้นไทยลดลงต่อเนื่อง
การขาดธรรมาภิบาลนี้สามารถทำให้ธุรกิจเผชิญกับปัญหาการขาดสภาพคล่องและส่งผลกระทบต่อการปล่อยสินเชื่อในอนาคต เนื่องจากนักลงทุนและธนาคารมีความกังวลเกี่ยวกับความโปร่งใสและการบริหารจัดการของบริษัท
จงรัก รัตนเพียร ผู้จัดการใหญ่ของธนาคารกสิกรไทย (KBANK) ได้เน้นย้ำว่า ธนาคารมีการพิจารณาธรรมาภิบาลเป็นปัจจัยสำคัญในการปล่อยสินเชื่อ และมีกระบวนการติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดเพื่อให้แน่ใจว่าบริษัทที่ได้รับสินเชื่อมีการบริหารจัดการที่ดีและไม่ประสบปัญหาด้านธรรมาภิบาล
การตระหนักถึงความสำคัญของธรรมาภิบาลนี้จะช่วยเพิ่มความมั่นใจให้กับนักลงทุนและลดความเสี่ยงในระบบการเงินได้ในระยะยาว
“กฤษณ์ จันทโนทก” ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของธนาคารไทยพาณิชย์ได้กล่าวถึงความสำคัญของธรรมาภิบาลในการปล่อยสินเชื่อ โดยเน้นว่าธนาคารให้ความสำคัญกับการพิจารณาด้านเครดิตและธรรมาภิบาลเป็นอย่างมาก ธนาคารไม่เพียงแค่พิจารณาในขั้นตอนการปล่อยสินเชื่อเท่านั้น แต่ยังมีการติดตามพฤติกรรมของบริษัทที่ได้รับสินเชื่ออย่างใกล้ชิดเพื่อป้องกันความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้น
กฤษณ์ยังกล่าวด้วยว่า ธนาคารมีสิทธิในการติดตามและตรวจสอบบริษัทที่ได้รับสินเชื่อเพื่อให้แน่ใจว่าการปล่อยสินเชื่อนั้นถูกต้องและไม่ก่อให้เกิดความเสี่ยงที่อาจจะส่งผลกระทบต่อธนาคารเองและต่อระบบการเงินโดยรวม ความใส่ใจในด้านธรรมาภิบาลนี้เป็นสิ่งสำคัญเพื่อรักษาความเชื่อมั่นของตลาดและลดความเสี่ยงในการปล่อยสินเชื่อ.
“กฤษฎา แพทย์เจริญ” ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มลูกค้าธุรกิจของธนาคารเอชเอสบีซี ประเทศไทย (HSBC) ได้กล่าวถึงความสำคัญของการพิจารณาธรรมาภิบาลในการปล่อยสินเชื่อ โดยเน้นว่าธนาคารมีการใช้เกณฑ์และกติกาที่เข้มงวดในการตรวจสอบธรรมาภิบาลของผู้บริหารและบริษัทต่างๆ ตามมาตรฐานสากลที่ใช้ในการพิจารณาปล่อยสินเชื่อ
ธนาคารเอชเอสบีซีมีการพิจารณาด้านธรรมาภิบาลอย่างเข้มข้นไม่เฉพาะในขั้นตอนการปล่อยสินเชื่อเท่านั้น แต่ยังมีการติดตามและทบทวนสถานะของบริษัทที่ได้รับสินเชื่ออย่างต่อเนื่อง แม้จะเป็นลูกค้าเดิมที่เคยได้รับสินเชื่อมาแล้ว เพื่อให้แน่ใจว่าการดำเนินธุรกิจของบริษัทยังเป็นไปตามหลักเกณฑ์และไม่มีความเสี่ยงที่อาจจะส่งผลกระทบต่อธนาคาร
การติดตามและทบทวนนี้ช่วยให้ธนาคารสามารถรับมือกับความเสี่ยงจากการปล่อยสินเชื่อได้ดีขึ้นและรักษาความมั่นคงของระบบการเงิน
ธนาคารเอชเอสบีซีเน้นย้ำว่าเรื่องธรรมาภิบาลยังคงเป็นสิ่งสำคัญและเป็นหลักเกณฑ์ที่ธนาคารยึดถือในการพิจารณาปล่อยสินเชื่อเสมอ โดยเชื่อว่าการพิจารณาเหล่านี้สอดคล้องกับมาตรฐานระดับสากล ธนาคารมีทีมที่ทำหน้าที่ติดตามและประเมินสถานะของลูกค้าอย่างต่อเนื่องหลังจากการปล่อยสินเชื่อ ซึ่งไม่ใช่แค่การปล่อยสินเชื่อแล้วจบ แต่ยังมีการติดตามพอร์ตลูกค้าต่อเนื่องเพื่อให้มั่นใจว่าการดำเนินธุรกิจของลูกค้าตรงตามหลักเกณฑ์ที่ตั้งไว้
หากเกิดเหตุการณ์ที่ส่งผลกระทบ ธนาคารจะมีการพูดคุยกับลูกค้าเพื่อเข้าใจถึงสาเหตุและหาวิธีการจัดการที่เหมาะสม ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของธนาคารในการรักษาความมั่นคงของพอร์ตสินเชื่อและความเชื่อมั่นของตลาด
Cr.กรุงเทพธุรกิจ
———————————————————-
เพิ่มเพื่อนรับข่าวสารตลาดหุ้น Forex และบทความดีๆ ด้านการเงิน การลงทุน ฟรี !!
http://line.me/ti/p/%40zhq5011b
Line ID:@fxhanuman
Web : https://www.fxhanuman.com
Web : https://www.eluforex.com/
FB:https://www.facebook.com/review.forex.broker/
เยี่ยมชม partner ของเราที่ Eluforex รีวิวโบรกเกอร์ Forex
#forex #ลงทุน #peppers #xm #fbs #exness #icmarkets #avatrade #fxtm #tickmill #fxpro #fxopen #fxcl #forex4yo